ชีวิตเราก็เหมือนฟองน้ำที่ดูดซับอารมณ์ ความรู้สึกและเรื่องราวต่างๆ จึงต้องคอยบีบฟองน้ำนี้เพื่อขจัดของเสียออกไป เพื่อให้มีพื้นที่ในการซึมซับสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่าเดิม และเติมพลังงานบวกเข้าไปให้การใช้ชีวิตทุกวันมีความสุขและมีคุณค่า เพราะทุกสิ่งมีพลังงานเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นกำไลหิน เสียงดนตรี หรือตัวเราเอง เลยทำให้สามารถเก็บกักพลังงานทั้งด้านบวกและด้านลบไว้ ซึ่งหากมีพลังลบหรือของเสียมาก ก็จะเกิดความไม่สมดุล imbalance สะสมเป็นความเครียดนานเข้าจนเป็นโรคซึมเศร้าได้ Depression

การขจัดอารมณ์ลบ ความเครียด หรือแม้แต่เรื่องราวฝังใจระดับ unconscious mind ที่น่าลองอีกอย่างคือการทำ Sound Bath ช่วยให้เรากลับเข้าไปสำรวจความสงบในตัวเราผ่านคลื่นเสียง หรือใช้พลังคลื่นเสียงในการปรับคลื่นความถี่สมองเพื่อเพิ่มความผ่อนคลายนั่นเอง

      มีการศึกษาเรื่องนี้โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ดร.มาซารุ อิโมโตะ เขาศึกษาเรื่องนี้ โดยการเอาน้ำสองแก้วมาวางไว้ แก้วแรกเขียนคำว่า "Happy" แปะไว้ ส่วนอีกแก้วเขียนคำว่า "Angry" แล้วนำไปแช่ช่องแข็ง
ปรากฏว่าแก้วที่มีคำว่า "Happy" โมเลกุลของน้ำจัดเรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบมาก  ซึ่งแตกต่างจากอีกแก้วที่แปะคำว่า "Angry" ไว้ แสดงให้เห็นว่าคำพูด หรืออารมณ์ส่งผลลึกถึงระดับDNAเซลล์โมเลกุลของสรรพสิ่งเลยทีเดียว

      โดยคลื่นเสียงบำบัดเป็นการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาท และคลื่นความถี่ที่แตกต่างของสมองทั้ง 4 ประเภท คือ คลื่นเดลต้า (Delta Wave) คลื่นเธต้า(Theta Wave) คลื่นอัลฟ่า (Alpha Wave) และคลื่นเบต้า (Beta Wave)  ความถี่คลื่นที่ต่างกันจะสัมพันธ์กับคุณภาพการนอน การหลับลึก หลับตื้น การหลับฝัน หรือไม่ฝัน เพราะคลื่นสมองของมนุษย์ขณะหลับนั้นแตกต่างกัน ถ้าศึกษาเรื่องนี้จะพบการแบ่งช่วงออกเป็น 4 ระยะ คลื่นเดลต้าจะอยู่ตั้งแต่ 1 Hz (Ultra Low Delta) คือช่วงหลับลึก และ 2-4 Hz ส่วนเธต้าป็นสภาวะหลับปกติของคนทั่วไปซึ่งหลับแต่ไม่ลึก การสะกดจิตก็จะอยู่ในระดับนี้ และถ้าเป็นคนที่ทำสมาธิขั้นสูง สมองก็จะอยู่ในคลื่นเธต้าหรือในสภาวะของการเข้าฌาน

       ถ้าเราใช้เสียงตั้งแต่อัลฟ่าลงไป ร่างกายจะอยู่ในสภาวะรับรู้ และจะค่อยๆหลับ จนหลับสนิท ถ้าปล่อยเป็นเดลต้าจะทำให้ร่างกายได้พักผ่อนในระดับที่“หลับลึก”
เมื่อหลับลึกร่างกายก็จะฮีลส่วนที่บาดเจ็บตามกลไกธรรมชาติ หรือ Bio Clock ในช่วงหลับลึกของคนๆนึงจะต่างกันแต่ละคืน ซึ่งหากหลับลึกได้แค่ 15-20 นาที ก็เป็นประโยชน์มากแล้ว เพราะร่างกายจะเริ่มซ่อมแซมส่วนที่บกพร่อง ถ้ายิ่งหลับลึกได้นานเท่าไรร่างกายก็ยิ่งจะฮีลตัวเองได้มากเท่านั้น ในต่างประเทศนักกีฬาฟุตบอลถึงชอบทำ Sound Bath เพราะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น
โดยระยะเวลาการทำ Sound Bath จะอยู่ที่ประมาณ 40-60 นาที ก็จะทำให้สมอง และร่างกายได้ผ่อนคลายในช่วงเวลาที่อาบคลื่นเสียง

 Delta 0.5-4 Hz  
Theta  4-8 Hz 
Alpha  8-12 HZ 
Beta 12-30 Hz 
Gamma 30-60 Hz
High Gamma 60-140 Hz

เสียงโน้ตแต่ละตัวก็ส่งผลกับแต่ละจักระในร่างกายของเราแตกต่างกันไป ในหนึ่งวันที่เราใช้ชีวิตประจำวันคลื่นไฟฟ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากความถี่สูง(ตื่น-ทำงาน) ไปสู่ความถี่ต่ำ(ก่อนเข้านอน-หลับลึก)
นั่นหมายความว่าเมื่อสมองมีคลื่นความถี่ต่ำ ร่างกายก็จะได้รับความผ่อนคลาย และเมื่อร่างกายผ่อนคลายระบบประสาทก็จะทำงานได้ดีขึ้น ร่างกายก็จะเกิดการฮีลหรือซ่อมแซมตัวเอง

คลื่นเสียงจากการทำ Sound Bath จะช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น ถ้าเป็นนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายบ่อยๆ เมื่อมีอาการบาดเจ็บ ก็จะช่วยให้ร่างกายเข้าสู่กระบวนการพักผ่อนทำให้ฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น

จากการหาข้อมูลเรื่อง Sound Bath พอจะรวบรวมประโยชน์ได้ตามนี้

Chakra balancing

Reduce stress and anxiety

Lower anger and blood pressure

Increases blood flow

Deep relaxation and pain relief

Increase mental and emotional clarity

Balances both hemispheres of the brain

Helps with insomnia & sleep disorders

Promote stillness & well being

Stimulates the immune system

Inspire deep meditative states.

เครื่องดนตรีในการทำ Sound Bath นิยมใช้ประเภทที่สั่นสะเทือนได้ดี หรือสร้างคลื่นเสียงให้เกิดขึ้นได้ เพื่อใช้คลื่นเสียงในการอาบร่างกาย

Gong ::
ให้ความทุ้มของเสียงจากการตีฆ้องหลากหลายขนาดสะท้อนผ่านหู และอาบไปทั่วร่างกายขณะที่เรานอนหลับตา ทั้งคลื่นเสียงและการสั่นไหวจากฆ้องจะทำให้ร่างกายและจิตใจเข้าสู่สภาวะผ่อนคลาย เป็นการปลดปล่อยสภาวะปิดกั้น (Blockage)ให้หลุดออกไป

Crystal Bowl::
ทำจากหินโดยเมื่อถูกวนหรือตีจะเกิดแรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดคลื่นเสียงความถี่ต่ำ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ 7.8 Hz/ วินาที เป็นภาวะสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่สมดุลมากต่อร่างกายของเรา เมื่อคลื่นเสียงความถี่ต่ำเข้าไปสั่นสะเทือนโมเลกุลน้ำในร่างกาย ที่เป็นส่วนประกอบหลักมากกว่า 70% จะทำให้โมเลกุลเกิดการเรียงตัวจัดสมดุลในระดับเซลล์ ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มสมาธิ และเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย เสียงของ Crystal Bowl จะปล่อยการสั่นรัวของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ 7.8 Hz/ วินาที เข้าสู่เซลล์สมองกว่า 14 พันล้านเซลล์ ทำให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่บกพร่องและเสื่อมสภาพขึ้น คลายอาการอ่อนเพลีย และเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย จึงเป็นอีกหนึ่งในศาสตร์แพทย์ทางเลือก ที่ใช้ดนตรีในการพัฒนาปรับสมดุลทางด้านจิตใจ เพื่อช่วยจัดระบบการทำงานของร่างกาย เพิ่มสมาธิ ช่วยการปลดปล่อยสภาวะปิดกั้น (Blockage)ให้หลุดออกไป ผ่อนคลายสลายเครียด ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดทางกาย และบาดแผลทางใจ

Tibetan Bowls ::
ขันทิเบตเป็นเครื่องมือที่กลุ่ม New Age ให้ความนิยมในการทำคลื่นเสียงบำบัด ขันทิเบตทำจากโลหะเจ็ดชนิดด้วยกัน ซึ่งพระทิเบตใช้ประกอบการสวดมนต์ โดยใช้ไม้ตี หรือวนเป็นวงกลมไปรอบตัวขันจนเกิดเสียงกังวาล แพทย์ทางเลือกและนักบำบัดเลือกใช้ประกอบการบำบัดด้วยเสียง เพราะเชื่อว่าเสียงจากขันช่วยเปิดระบบประสาท สู่การปลดปล่อยให้รู้สึกสงบทั้งกายใจ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย นอนหลับดีขึ้น ปรับอารมณ์ศร้าให้ลดลง

Tuning Fork :: 
ส้อมเสียงทางการแพทย์ใช้เป็นอุปกรณ์ตรวจการได้ยินรูปแบบหนึ่ง เกิดขึ้นจากการประดิษฐ์ของนักดนตรีชาวอังกฤษ John Shore เพื่อใช้เทียบเสียงตัวโน้ตสำหรับตั้งค่าเสียงเครื่องดนตรีเพื่อให้ได้เสียงของโน้ตต่างๆตรงกัน ปัจจุบันส้อมเสียงถูกนำมาประยุกต์ใช้ในศาสตร์การบำบัดด้วยเสียง Sound Healing ด้วยความเชื่อว่าการสั่นสะเทือนของส้อมเสียง มีส่วนช่วยปรับสมดุลของธาตุต่างๆในร่างกาย ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และมีการนำ Tunning fork มาใส่คลื่นเสียงตามความถี่ของดาวเคราะห์ต่างๆตามแนวคิดแบบ Schumann Resonances - Earth’s Heartbeat ชีพจรของโลก
สนามพลังแม่เหล็กของโลกมีค่าเท่ากับ 7.83 Hz หรือ Earth’s electromagnetic field เป็นสนามพลังที่ปกป้องสิ่งมีชีวิตมาตลอด โดยลักษณะของสนามพลังจะเหมือนกับการกระเพื่อมของหัวใจ เป็นช่วงของคลื่นสมองที่ทำให้มนุษย์รู้สึกมีความสุข และผ่อนคลาย โดยCrystal Voyage ได้นำส้อมเสียงที่ความถี่ 7.83 Hz นี้มาใช้ในการเดินทาง Sound Bath อาบคลื่นเสียงด้วย

สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดของการฮีลลิ่งคือการกลับมาดูตัวเอง 
การทำ Sound Bath ก็เหมือนการมีไกด์ที่พาเหล่านักเดินทางเข้าไปสำรวจความสงบข้างในตัวเรา ผ่านคลื่นเสียงโดยเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด 
ในทริปการเดินทางที่เรียกว่า Sound Journey ซึ่งแม้จะออกเดินทางในทริปเดียวกันระสบการณ์ของแต่ละคนก็จะหลากหลายและสวยงามต่างกันไป

Click here to book your Sound Bath Journey IN BANGKOK

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor